สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะหาซื้อแหวนเพชร แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ลองทำตาม 9ขั้นตอนนี้ดูกัน รับรองว่าจะได้แหวนเพชรที่สวย ถูกใจ และคุ้มค่าที่สุดตามงบประมาณที่กำหนดไว้แน่นอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE : https://lin.ee/Gd7D5BL ร้านมิลเลนเนียมสตาร์ยินดีให้คำแนะนำเสมอ

ขอเริ่มต้นด้วยการสรุป 9 ขั้นตอนการเลือกซื้อแหวนเพชร ตั้งแต่ต้นจนจบเลย

สิ่งสำคัญที่สุด อันดับแรกก็คือกำหนดงบประมาณเอาไว้ เพื่อจะได้เลือกซื้อเพชรให้ได้คุ้มค่าที่สุด และงบประมาณไม่บานปลาย

TIP : สำหรับหลายๆคนที่เลือกซื้อแหวนแต่งงาน ทางร้านอยากแนะนำว่าให้พยายามลดค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เป็นค่าใช้จ่ายที่จะหมดไปในงานแต่งงานเพียงวันเดียว แล้วมาเพิ่มงบประมาณให้กับแหวนแต่งงานดีกว่า เพราะแหวนแต่งงานจะอยู่กับเราตลอดไป และยังเป็นสินทรัพย์สามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้อีก

TIP : Fluorescence จะเป็นสารเรืองแสงซึ่งจะส่องเห็น ได้ภายใต้แสงUV (Ultraviolet) ซึ่งถ้าพชรมีสาร Fluorescence มากๆ จะดูมัวๆ เหมือนเอาน้ำนมมาทาเพชรไว้ ดังนั้นเพชรที่มีสาร Fluorescence จึงมีราคาถูกกว่าเพชรที่ไม่มี แต่สำหรับเพชรสีนวลๆ ( J color หรือ น้ำ 94 ลงไป ) การมี Fluorescence สีฟ้าในระดับจางๆอาจจะช่วยให้เพชรดูขาวขึ้นเล็กน้อย

หลังจากได้งบประมาณแล้วมาศึกษาหลักสูตรการดูเพชร หรือที่เรียกว่าหลัก 4Cs กัน เพราะราคาของเพชรนั้นสามารถแตกต่างกันได้มาก โดยขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังนี้

1.Color คือ ระดับความขาวของเพชร

2. Clarity คือ ระดับความสะอาดของเพชร

3. Cut คือ การเจียระไน

4. Carat Weight คือ น้ำหนักของเพชร

และปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อราคาเพชร ได้แก่

– Fluorescence หรือ สารเรืองแสง

– Certificate หรือ ใบเซอร์ของเพชร

เพชรส่วนมากจะมีโทนขาวอมเหลืองนิดๆ โดยระดับสีของเพชรนั้นจะถูกแบ่งเป็นเกรดตามตัวอักษรตั้งแต่ D Color คือเพชรน้ำ 100 จะขาวใส ไม่มีสีเลย (Colorless) จนถึง Z Color คือสีค่อนข้างเหลือง (ถ้าเหลืองกว่า Z Color จะถูกจัดเป็นเพชร Fancy Color)

TIP : เพชรยิ่งขาว ก็จะยิ่งมีมูลค่าสูง โดยความขาวของเพชร ก็สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า เทคนิคง่ายๆคือให้คว่ำเพชรลงบนกระดาษสีขาว จะช่วยให้เห็นสีของเพชรได้ง่ายขึ้น

เพชรโดยส่วนมากจะมีตำหนิอยู่ภายในเนื้อเพชร ดังนั้น เพชรที่สะอาดหมดจดจริงๆจะหายากมากๆ จึงมีมูลค่าสูง ระดับความสะอาดที่นิยมในเมืองไทยคือตั้งแต่ระดับ IF (Internally Flawless) คือไม่มีตำหนิเลย ไปจนถึงระดับ vs2 คือมีตำหนิเล็กน้อย แต่ยังไม่เห็นด้วยตาเปล่า

TIP : เทคนิคให้การเลือกเพชรระดับ vvs1-vs2 แนะนำให้เลือกเพชรที่ตำหนิเป็นสีขาว และอยู่ริมๆของตัวเพชร เนื่องจากถ้าตำหนิสีดำหรือตำหนิอยู่ตรงกลางเพชรพอดี จะส่องเห็นได้ง่าย

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือเรื่องสัดส่วนการเจียระไน ซึ่งจะส่งผลต่อการเล่นไฟของเพชร เพชรจะสวยแวววาวรึเปล่าขึ้นอยู่กับการเจียระไน

นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะไม่ว่าซื้อเพชรขาวมากๆหรือเพชรสีนวล ทุกคนก็คงจะเอยากได้แหวนเพชรที่ส่องประกายวิบวับอยู่บนนิ้ว มากกว่าเพชรที่นิ่งๆไม่เล่นแสง

TIP : อีกหนึ่งปัจจัยที่จะบอก range ราคาได้ก็คือน้ำหนักของเพชร เพราะเพชรยิ่งมีขนาดใหญ่ ราคาก็จะยิ่งก้าวกระโดด เช่น เพชรขนาด 1กะรัต จะมีราคาสูงกว่าเพชรขนาด 0.50 กะรัต 3-4 เท่า แต่นอกจากน้ำหนักของเพชรแล้ว แนะนำว่าให้ดูหน้ากว้าง และ ความลึกของเพชรประกอบกันด้วย เพราะเพชรบางเม็ดน้ำหนักเท่ากัน แต่อาจจะมีขนาดต่างกัน (เพชรลึกมากก็ได้หน้ากว้างน้อยหน่อย แต่ถ้าเพชรไม่ลึกก็จะได้หน้ากว้างเยอะหน่อย)

TIP : ทาง GIA มีคำแนะนำไว้ ว่าให้เลือกร้านเพชรราวกับคุณกำลังเลือกคุณหมอที่จะมารักษาโรค คือควรจะต้องเลือกร้านที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าเพชรจะได้มาตรฐาน สามารถให้ความรู้กับลูกค้าและตอบข้อสงสัยต่างๆให้กระจ่างเหมือนคุณหมอที่คอยอธิบายอาการเจ็บป่วย รวมทั้งให้คำแนะนำในการรักษาได้อย่างชัดเจน

คนชอบพูดกันว่าเพชรมีใบเซอร์ราคาแพง แต่ในความเป็นจริง ค่าออกใบเซอร์กับสถาบันใหญ่ๆระดับโลก เพียงแค่ไม่กี่พันบาทเท่านั้นเอง การที่เพชรมีใบเซอร์ที่ราสูงกว่าเพชรไม่มีใบเซอร์นั้น น่าจะเป็นเพราะคุณภาพของเพชรที่สวยกว่า

TIP : ถ้าไม่ได้มีความชำนาญในการดูเพชรระดับมือโปร ให้ซื้อเพชรที่มีใบเซอร์ เพราะคุณจะมั่นใจได้ว่าเพชรที่ได้ไปนั้น มีคุณสมบัติทุกอย่างตรงตามนั้นจริง

TIP : เมื่อเลือกเพชรที่ถูกใจแล้ว เราก็มาเลือกแบบแหวนกัน สิ่งที่ต้องพิจรณาในการเลือก นอกจากแบบแหวนที่สวยเข้ากับนิ้ว ต้องดูเรื่องความแข็งแรงและความเหมาะสมกับการใช้งานด้วย เช่น ลูกค้าบางท่านตั้งใจซื้อแหวนแต่งงานเืพ่อใช้ในพิธีหมั้น และไว้สำหรับใส่ออกงานเป็นครั้งคราวเท่านั้น แบบที่เลือกอาจจะมีดีไซน์เวอร์วังก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าตั้งใจว่าจะใส่ในชีวิตประจำวันด้วย น่าจะเหมาะกับแหวนแบบเรียบๆมากกว่า

หลังจากศึกษาปัจจัยต่างๆ มาดูงบประมาณที่ตั้งใจไว้ เราอยากจะให้ความสำคัญปัจจัยไหนมากที่สุด จะเป็นขนาด ความขาว หรือความสะอาด (เรื่องการเจียระไน แนะนำว่าให้เกรดสวยที่สุด คือ 3 Excellent เท่านั้น)

TIP : เพราะในงบประมาณเท่าๆกัน ถ้าเราเน้นอยากได้ไซร์ใหญ่ ก็อาจจะต้องลดความขาวและความสะอาดลงมาสักหน่อย หรือถ้าอยากเน้นที่สเป็คสวยสุดๆอย่าง D Color , IF ก็อาจจะได้เพชรไซร์เล็กลงซักนิดนึง

เมื่อสั่งซื้อหรือสั่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการรับแหวน สิ่งที่ต้องเช็คก็คือขนาดแหวนว่าพอดีกับนิ้วรึเปล่า แหวนควรจะใส่สบายๆกำลังดี แต่ก็ต้องไม่ถอดง่ายจนเกินไป สำหรับแหวนเพชรชูของคุณผู้หญิง แหวนควรจะต้องกระชับนิ้วพอสมควร ไม่อย่างนั้นเพชรจะหมุนคว่ำลงเวลาสวมใส่

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำสำหรับคนที่ซื้อเพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันชั้นนำอย่าง GIA,HRD,IGI คือ จะต้องเช็คตัวเลขบนขอบเพชรให้ตรงกับบนใบเซอร์ เพื่ีอให้มั่นใจได้ว่าเราได้เพชรเม็ดที่ถูกต้อง

TIP : วันที่นอนน้อยหรือพึ่งลงจากเครื่องบิน นิ้วอาจจะบวมกว่าปกติไม่แนะนำให้ลองแหวนในวันนั้นๆ

TIP : ขั้นตอนนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว หลายๆร้านจะมีบริการสลักชื่อหรือข้อความบนแหวนให้ฟรี เพื่อให้ลูกค้าได้ใส่ชื่อหรือข้อความแทนใจลงบนแหวนให้กันและกัน เป็นการเพิ่มเอกลักษณ์ให้แหวนมีความเป็นตัวเรา ไม่ซ้ำกับคนอื่น

เพียงเท่านี้ก็ Happy ได้แหวนสวยถูกใจ กลับบ้านแล้ว